การเลือกซื้อ ปืนยิงตะปู หรือปืนลมยิงตะปู พร้อมวิธีการใช้งาน

การเลือกซื้อ ปืนยิงตะปู หรือปืนลมยิงตะปู

สำหรับงานช่าง การเลือกหาซื้อปืนยิงตะปูให้เหมาะสมกับงานนั้น เราควรพิจรณาตามลักษณะของงานที่ทำ โดยปืนยิงตะปูจะมีหลายหลายชนิด ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปืนยิงตะปูขาคู่ ปืนยิงตะปูขาเดี่ยว นอกจากนั้นยังแบ่งแยกย่อยตามลักษณะการใช้งาน งานยิงไม้ งานยิงคอนกรีต งานยิงเหล็ก วันนี้ผมจะมาแนะนำปืนลมยิงไม้ และปืนลมยิงคอนกรีต

 

ปืนยิงตะปูยิงไม้

ปืนยิงตะปูยิงไม้เป็นเครื่องมืองานช่างอีกตัวที่ควรมีไว้สำหรับช่างเฟอร์นิเจอร์ ที่ผมจะแนะนำจะเป็นปืนลมยิงไม้ที่ใช้กับลูกปืนขาเดี่ยว รหัสลูก F 10-F50 สำหรับงานยิงไม้ เฟอร์นิเจอร์ งานบิ้วอินไม้ แม้แต่ยิงไม้แข็งๆพวกไม้แดง ไม้เต็ง ก็ยิงได้ไม่มีปัญหาครับ ส่วนปืนลมยิงพวกโครงไม้อัด ลัง โดยใช้ลูกยิงขาคู่(U) หรือหัวPIN ผมไม่เคยใช้ครับ ปืนลมยิงตะปูสำหรับลูก F -10,F50 ขนาดลูกจะเล็กเหมือนเข็ม ฉะนั้นเมื่อนำไปใช้งานยิงไม้จะทำให้การเก็บงานปิโป๊ะง่าย และรวดเร็ว สำหรับที่ผมเคยใช้จะเป็นตัว F50 EUROX GOLD ตัวสีทอง ใช้งานง่าย เบา ทน ยิงลูกได้ตั้งแต่ ขนาดยาว 10 มม จนถึง ขนาดยาวสุด 50 มม กับอีกตัว RED king ถามว่าทำไมผมจึงใช้ยี่ห้อนี้ เพราะมาคุณภาพพอใช้ได้ อะไหล่หาง่าย และราคาของไม่สูงจนเกินไปครับ

ประเภทของเครื่องยิงตะปูใช้ลม  แบบใช้งานไม้

ปืนยิงตะปู แบบใช้งานไม้  ปืนยิงตะปู ชนิดนี้ใช้สำหรับยิงไม้ 2 ชิ้นขึ้นไป ให้ติดกัน  มีให้เลือกใช้หลายแบบ  ตามชนิดของไม้ และวัตถุประสงค์การใช้งาน  ซึ่งต้องพิจารณาในเรื่องของ “ลูกตะปู” ประกอบด้วย  ปืนยิงตะปูที่อยู่ในประเภทนี้มีดังนี้

1.  ปืนยิงตะปู รุ่น F-30  และ  F-50  
ใช้กับงาน ยิงโครงไม้  ไม้อัด  ไม้ไผ่  งานกรอบรูป  เฟอร์นิเจอร์  ตกแต่งภายใน  ยิงฝ้าเพดาน  กระเบื้องแผ่นเรียบ  งานคิ้ว  บัว  โครงมิเนียมบางๆ ฯลฯ  ใช้กับลูกตะปูแบบขาเดียว  ที่มีรหัส ขึ้นด้วยตัวอักษร F  ซึ่งจะมีความยาวตั้งแต่เบอร์  10 15  20  25  30 ....ถึง 50  ม.ม.  (รุ่น F-30  ใช้กับลูกตะปู ที่มีความยาว 10-30 ม.ม.)  หัวลูกตะปู จะมีความกว้างประมาณ  2  ม.ม.    เมื่อยิงแล้วหัวตะปูจะฝังลงไปด้วย     เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการให้เห็นรอยยิง

2.  ปืนยิงตะปู  รุ่น  422J    
ใช้กับงาน  หวาย  เบาะหนัง  ส้นรองเท้า  กล่องกระดาษ  ผ้า  เครื่องหนัง  โครงไม้อัด  ลัง  แปรงปัด  ใช้ลูกตะปูเป็นแบบขาคู่  ( U ) สันลูกกว้าง  4  ม.ม.  จะมีรหัส  ขึ้นต้นด้วยตัวเลข 4…J  ซึ่งจะมีความยาวขาตั้งแต่เบอร์  06 ม.ม. -22 ม.ม.  (ความยาวของ ขาตะปู จะอยู่ระหว่าง 4...J   เช่น  ลูกตะปูรหัส  406J  หมายถึง ลูกตะปูขาคู่  สันลูกกว้าง 4  ม.ม.  ขายาว  6  ม.ม. 

3  ปืนยิงตะปู  รุ่น  1013J  และ 1022J   
ใช้กับงานยิงเบาะหนัง  เบาะบุพลาสติก  งานประดับตกแต่ง  ของเล่นเด็กที่ทำด้วยไม้  โครงไม้ ลัง  ต่อแผ่นไม้  แปรงปัด    ใช้ลูกตะปูแบบขาคู่ ( U ) สันลูกกว้าง  10  ม.ม.  รหัสของลูกตะปูจะขึ้นต้นด้วย  10....J  ขึ้นอยู่กับขนาดความยาวขาตะปู   ขาตะปูจะมีความยาวตั้งแต่เบอร์  04 – 22 ม.ม.  เช่น  1004J  1013J  1019J  1022J   ลูกตะปูขาคู่   เมื่อยิงไม้แล้วส่วนที่เป็นขา จะฝังอยู่ในไม้  ส่วนสันตะปูจะคร่อมอยู่บนไม้  มองเห็นเป็นเส้น  กว้างตามขนาดสันแต่ละอัน

4.  ปืนยิงเข็มหมุด  ( PIN )  
ใช้กับงาน ยิงงานฝีมือ  ของเล่นไม้  ไม้ไผ่  กรงนก  ปลอกคอหนัง หรือ พลาสติก  กล่องใส่เครื่องประดับ  ใช้ลูกตะปูขาเดี่ยว  ชนิดไม่มีหัว  ขนาด 0.6 ม.ม.  มีความยาวตั้งแต่  12  15  18 20  และ 25 ม.ม.  ขึ้นต้นด้วยคำว่า  PIN 12  -  PIN 25 

5  ปืนยิงตะปูม้วน 
ใช้ยิงพาเลต  ลักษณะลูกตะปูจะต่อกันเป็นม้วน  หัวตะปูแบนกลม ขนาดใหญ่  มีขนาดตั้งแต่  25 – 65  ม.ม.

 

ปืนลมยิงคอนกรีต

ปืนลมยิงคอนกรีตปืนลมชนิดนี้จะมีขนาดใหญ่ ใช้สำหรับยิงงานคอนกรีต ไม้แข็ง เหล็กบางๆขนาด 2 มม(เกินกว่านี้ไม่เคยลอง) อลูมิเนียม โดยปืนชนิดนี้จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรกคือ ตระกูล FST จะใช้กับลูกตะปูขนาดเล็ก ผมไม่เคยใช้

กลุ่มที่สอง ตระกูล ST จะใช้กับลูกตะปูขนาดใหญ่ ลักษณะตัวปืนจะมีขนาดใหญ่ น้าหนกเยอะ แรงอัดลมจะสูง เหมาะกับงานยิงคอนกรีต เช่นยิงแผ่นระแนงไม้เทียมติดผนัง ยิงไม้แข็ง รุ่นที่ผมเคยใช้ได้แก่

ปืนลมยิงคอนกรีต MKT ST-64 ใช้ได้กับลูกตะปูขนาดยาง 15 มม ถึง 64 มม ตัวปืนค่อนข้างหนักทำให้การทำงานในที่สูงคนยกจะเมื่อยแขน แต่จะทดแทนด้วยความแรงของลมอัด (ปืนลมยิงคอนกรีตยี่ห้อนี้เห็นเขาว่าบริษัทที่นำเข้ามาเป็นบริษัทเดียวกับที่นำสินค้า MAKITA เข้ามาจำหน่าย ซึ่งอันนี้ผมไม่แน่ใจครับ)ปัญหาที่พบคือ กระบอกอลูมิเนียมจะค่อนข้างพังไว อะไหล่ราวๆหกถึงเจ็ดร้อยบาทประมาณนี้ สำหรับอะไหล่ผมหาได้ที่ร้าน อ.อุดมทรัพย์ ใกล้บ้าน และเจ้าของร้านมีความรู้แนะนำเราได้ครับ

ปืนลมยิงคอนกรีต Red King ST-64 ใช้ได้กับลูกตะปูขนาดยาง 15 มม ถึง 64 มม เช่นกัน ตัวปืนค่อนข้างเบากว่า MKT ST-64 ทำให้การทำงานในที่สูงค่อนข้างข้องตัวกว่า แต่แรงอัดของลมปืนจะเบากว่าตัว Red King

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของการใช้เครื่องมืองานช่าง คือการใช้ของให้ตรงกับงาน และเหมาะสมกับวุตถุประสงค์ของงาน เนื่องจากปืนลมยิงตะปูเมื่อใช้งานแล้วจะค่อนข้างอันตราย การใช้งานในแต่ละครั้งควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง

ประเภทของเครื่องยิงตะปูใช้ลม  แบบใช้งานคอนกรีต

ปืนยิงตะปู ชนิดนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าชนิดแรก  สามารถยิงได้ทั้งไม้แข็ง , คอนกรีต และโครงเหล็ก/อลูมิเนียม ที่ไม่หนามาก  เช่นโครงฝ้าเพดาน  ฉากทีบาร์  กรอบหน้าต่างประตูอลูมิเนียม  ปืนยิงตะปู ชนิดนี้ที่นิยมใช้กันมีอยู่  2  รุ่น  คือ  ปืนยิงคอนกรีตตะปูเล็ก  รุ่น  FST-50  และปืนยิงคอนกรีตตะปูใหญ่  รุ่น ST-64  บางยี่ห้อใช้ชื่อรุ่นอย่างอื่น  แต่ให้สังเกตที่ตัวเลขข้างหลัง  ว่าเป็นรุ่น  50 หรือ 64  ข้อแตกต่างมีดังนี้     

1.  ปืนยิงคอนกรีตตะปูเล็ก  รุ่น  FST-50  
ใช้กับงานยิง  คอนกรีต  ไม้แข็ง  บัว  คิ้ว  กรอบตู้  ลัง  ฉากทีบาร์  โครงไม้เนื้อ พาเลต  ลูกตะปูจะมีขนาดแกนใหญ่  หัวตะปูกว้าง  3  ม.ม.  แกนตะปูมีทั้งกลมและเหลี่ยม ขนาด  1.8  ม.ม.  เมื่อยิงไปแล้วจะมีหัวตะปูโผล่ขึ้นมาให้เห็น  ลูกตะปูที่ใช้กับปืนลมชนิดนี้  มี 2 แบบ  ถ้ายิงไม้  ใช้ลูกตะปู รหัส  T  เช่น  T25  T50 ยิงคอนกรีต  ใช้ลูกตะปู  รหัส  FST เช่น  FST-10  FST-50 (สูงสุด 50 ม.ม.)

2. ปืนยิงคอนกรีตตะปูใหญ่  รุ่น  ST-64   
ใช้ยิงไม้ติดกับคอนกรีต  ไม้แข็ง  บัว  คิ้ว  ไม้เชอร์ร่า  พาเลต  โครงหลังคา  โครงไม้  บันได  งานตกแต่กภายในบ้าน  ลัง  กล่องไม้/กระดาษ   ลูกตะปูจะมีขนาดหัวตะปูกว้าง  7  ม.ม.  แกนตะปูกลม  เส้นผ่าศูนย์กลาง  2.2  ม.ม.  ยิงไม้จะใช้ลูกตะปู รหัส  WT เช่น WT-25  WT-57 WT-64    ถ้าใช้ยิงคอนกรีต  ลูกตะปูจะมี รหัส ST  เช่น  ST-25  ST-45  ST-50   (สูงสุด  64 ม.ม.)

      ชนิดของปืนลมที่ใช้กันทั่วๆไป    ก็จะมีประมาณที่กล่าวมา จะเลือกใช้แบบไหนอย่าลืม    พิจารณาให้เหมาะสมกับงานนะครับ

วิธีการใช้งานปืนลม

1.หยอดน้ำมันปืนลมก่อนใช้งานทุกครั้งก่อนใช้งานปืมลมทุกครั้ง หยอดน้ำมันปืนลม 2-3 หยดเข้าที่ทางลมเข้า เพื่อยืดอายุการใช้งานของปืนลม

2. ใช้ปั๊มลมไม่เกิน 8 BAR ใช้ลมที่แห้งและสะอาดจากปั๊มลม ให้แรงดันลมอยู่ที่ 6-8 Bar (90-120 Psi) ต่อชุดดักน้ำส่งน้ำมันที่ปั๊มลม เพื่อให้ได้ลมที่สะอาดและแรงดันคงที่ถ้าแรงดันลมน้อยกว่า 6 Bar ตะปูจะยิงไม่จม ถ้าแรงดันลมมากกว่า 8 Bar ปืมลมอาจชำรุดและระเบิดได้
* ห้ามใช้แรงดันถังแก๊ส เช่น CO2 , O2 , Ar  เนื่องจากไวไฟและแรงดันสูงกว่า 8 Bar

3. การบรรจุตะปูขาเดี่ยว และขาคู่

 

3.1 ขาเดี่ยว ใช้มือขวาจับที่ตัวปืน และมือซ้ายปลดล็อคท้ายแล้วเลื่อนรางปืนออกมา

 

3.2 ขาคู่ ใส่ตะปูในรางปืน ให้ตะปูด้านที่แหลมที่สุดหันไปทางเดียวกับปากปืน ผลักรางปืนเลื่อนกลับที่เดิม

4. วิธีการยิง กดปากปืนติดกับชิ้นงานแล้วจึงยิง อย่ายิงโดยปากปืนไม่ติดกับชิ้นงาน เพราะจะยิงตะปูไม่จม และอาจเกิดอันตรายได้

* เพื่อเพิ่มแรงยิง ให้ใช้อีกมือกดที่หัวปืน

* ปืนที่มี SAFETY ที่ปากปืน ให้กดปากปืนกับชิ้นงานจึงจะยิงได้

* ปืนที่มี SAFETY ที่ไกปืน ให้ปลดล็อคก่อน จึงจะใช้งานได้